สามีพูดถึงการมาทำ Hoya Barkery และการเพิ่มประชากรของเด็กๆในสังกัด
เมื่อปี 2018 เราย้ายครอบครัวมาจากอเมริกา ซึ่งเป็นแพลนของเรามาหลายปีแล้ว เมื่อทอมมี่เกษียณอายุจากการเป็นหน่วยกู้ภัย เราจึงเอาโฮย่า ตอนนั้นอายุ 8 ขวบ กับลิงบรินทร์อายุ 1 ขวบกลับเมืองไทย
จากวันนั้นที่เรามีแค่หมา 1 ลูกลิง 1 วันนี้เรามี
หมา 2 หน่วย
กระต่าย 5 หน่วย
หนูแกสบี้ 2 หน่วย
เป็ด 7 หน่วย
ไก่ประมาณ 30 หน่วย
ปลา 1 บ่อ
อิกัวน่า 1 ตัว
เฮ้ยยย...มันคือชีวิตจริงจ้ะทุกคน
เอาจริงก็ไม่รู้ว่าเรามาถึงจุดนี้กันได้ยังไง ทั้งแบ๋มทั้งทอมมี่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงตอนเด็ก ตอนโตก็ไม่มี มามีร่วมกันตัวแรกคือ โฮย่า ซึ่งทำให้ชีวิตเราทั้งคู่เปลี่ยนไปเลย แต่ก็ทำให้เรามีวันนี้ มี Hoya Barkery ได้พบกับพ่อหมาแม่หมามากมาย ได้มีส่วนร่วมให้แง่คิดต่างๆ ผ่านการแชร์ประสบการณ์ การเลี้ยงสัตว์มันมีค่าใช้จ่ายเยอะจริงๆนะ เรารับมาเลี้ยงกันอย่างหน้ามืด แต่ก็นำมาซึ่งความสุขที่ประเมินค่าไม่ได้ เงินที่เคยใช้ไปกับการกิน การเที่ยว เสื้อผ้า ก็มาซื้ออาหารไก่ อาหารปลา หญ้ากระต่าย วิตามินหมา และค่ารักษาพยาบาล ลูกๆ เรามีทั้ง 2 ขา 4 ขา จนกระทั่งไม่มีขา (ปลาน่ะปลา) เราดีใจที่เห็นหน้าขนและหน้าเมือกทุกหมู่เหล่าอยู่ด้วยกันได้อย่างผาสุขในพื้นที่กลางเมืองที่ไม่ใหญ่มากของเรา แม่ค้าผักแถวนี้รู้จักสามีเป็นอย่างดี (อีกหน่อยลงสมัครการเมืองท้องถิ่นได้ ฮ่าๆ) เพื่อนบ้านเวลาเห็นสัตว์หน้าไม่คุ้นหลงไปก็จะมาถามบ้านนี้ก่อนว่าใช่ของเรามั๊ย เพราะสมาชิกใหม่มาบ่อยเหลือเกิน
การเลี้ยงสัตว์ก็คือการเลี้ยงลูก ไม่มีผิดไม่มีถูก แต่เหมือนกันสิ่งนึงคือเราต้องรับผิดชอบในชีวิตเค้าและสิ่งที่เค้าทำ เพราะเราคือพ่อแม่เค้า...ตลอดไป
HOYA
ลูกชายคนโต ลูกรัก
แบ๋มกับทอมมี่คบกันได้ประมาณ 6 เดือน ตอนที่เราคิดจะรับหมามาเลี้ยง เราไปดูตาม shelter ต่างๆ น่าจะอารมณ์เทศบาล หมาโดนทิ้งจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อหาบ้านใหม่ แต่เราไปดูแล้วบรรยากาศไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ หมาอยู่ในกรงทุกตัว เห่าหอนกันระงม ตอนนั้นยังไม่รู้จักองค์กรอิสระที่ช่วยหาบ้านให้หมา องค์กรเหล่านี้มีอยู่เยอะและจะหาบ้านชั่วคราวให้หมาอยู่เวลาคนอยากมาดูตัวเพือรับเลี้ยง สิ่งแวดล้อมก็จะดีกว่ามาก หมาไม่ตื่นกลัว ไม่เครียด
ทอมมี่เลยดูเอาออนไลน์ ไปเจอรูปโฮย่าในเว็ปไหนไม่แน่ใจ ลิสต์ไว้ว่าเป็นตัวเมีย (ตอนนั้นอยากได้ลูกสาว) นัดเจอตัวกันครึ่งทาง เค้าขับมาจาก West Virginia เราอยู่ Virginia ใกล้ๆ Washington DC แว้บแรกที่เห็น อุ่ย มีเจี๊ยวว่ะ แต่ก็รับมามาแบบงงๆ ไม่มีการเตรียมตัว เลี้ยงกันไม่เป็น ไม่มีใครอยู่บ้านกลางวัน ไม่มีคนช่วยเลี้ยงจริงๆ นี่ก็ไม่ต่างจากการมีลูกแบบไม่พร้อม แต่การมีโฮย่าเข้ามีก็ทำให้เราอยากเปลี่ยน ต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตของเรา อยู่บ้านมากขึ้น เจอเพื่อนบ้านมากขึ้น ทุกคนเรียกเราว่าพ่อแม่โฮย่า ชื่อ Hoya มาจากชื่อทีมบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัย Georgetown ที่มีบูลด้อกเป็น mascot
คิดในมุมกลับ เราควรจะศึกษาให้มากกว่านี้ เพราะเค้าก็คือชีวิตหนึ่งที่เราต้องรับผิดชอบไปอีก 10-15 ปี หมาบางพันธุ์ก็นานกว่านั้น ใครที่ยังไม่เคย และคิดจะเลี้ยงสัตว์อะไรสักชนิด ให้คิดยาวๆว่าเค้าต้องกินข้าว อาบน้ำ หาหมอ การที่เค้าพูดไม่ได้และไม่มีกฎหมายรองรับ ทำให้คนซื้อขายสัตว์กันง่ายๆ เบื่อก็เอาไปทิ้งง่ายๆ แต่การเลี้ยงสัตว์ การทำธุรกิจ การใช้ชีวิต การเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ประเสริฐ (คนก็ช่างตั้งชื่อให้ตัวเอง) เราควรเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ถ้าเราโดนทิ้งบ้างล่ะ
เราโชคดีที่สามารถปรับชีวิตให้ดูแลโฮย่าได้ โฮย่าสอนอะไรเราหลายๆอย่าง เช่น การพูดกับหมาเป็นตุเป็นตะ เหมือนคนบ้า การใช้ภาษากาย แม้โฮย่าจะเป็นหมาหน้าเดียว หางก็สั้น แต่ก็ไม่เคยเก็บความรู้สึก ดีใจก็บอกว่าดีใจ ร้อนก็บอกว่าร้อน หิวก็บอกว่าหิว (ตลอดเวลา) เออ มีเท่านี้แหละมั๊ง เพราะไม่เห็นเคยโกรธใคร โดนน้องหยิกหน้า เอานิ้วจิ้มตาก็ยังเฉย โฮย่าใจเย็น ใจกว้าง เป็นพี่เลี้ยงหมาหาบ้านมานับไม่ถ้วย ทำให้พวกเค้ามีนิสัยดีขึ้นพร้อมไปอยู่บ้านใหม่ แล้วโฮย่าก็ยังอยู่ได้กับทุก species สัตว์น้ำสัตว์บก ครึ่งน้ำครึ่งบก โฮย่ารักหมด จะมีก็แค่อยากรู้อยากเห็นบ้าง เผลอเอาตรีนฟาดเพื่อนสลบบ้าง แต่ไม่เคยตั้งใจทำร้ายใคร
เราพาโฮย่าไปทุกที่ โชคดีที่เมืองที่เราอยู่มีที่ให้หมาไปเล่นได้หลายที่ โฮย่าเลยเข้ากับหมาได้ คนได้ ไม่เครียด สุขภาพดีตั้งแต่เด็กจนแก่ ในวัยชรา โฮย่าไม่ค่อยได้ออกไปไหนแล้วเพราะขึ้นลงรถก็ต้องอุ้ม ในรถก็ไม่ยอมนั่ง ยืนเซไปเซมา ออกไปเดินแป้ปเดียวก็เหนื่อย แต่เราก็ยังอยากให้เค้าได้เจอผู้คน โชคดีว่าบ้านเรามีลูกบ้านเช่าอยู่ด้วย มีหมากัน 4 บ้าน โฮย่าเลยได้เจอหมาและคนแทบทุกวัน บวกกับสัตว์สารพัด คิดว่าปู่ก็น่าจะสุขภาพจิตดีอยู่
AYOH
อาโย (ชื่อเต็มอายาโนะจัง) มาจาก HOYA กลับหลัง อาโยเป็น golden retriever ที่เรารับมาเลี้ยงจากเชียงราย เมื่อก่อนนางชื่อกะเปีย อาศัยอยู่บนดอยอำเภอเทิง เจ้าของเก่าอาโยเป็น breeder ที่ปล่อยให้น้องอยู่นอกบ้าน หาอาหารกินเอง พอน้องถึง cycle ก็หาตัวผู้มาทับให้น้องท้อง แล้วขายลูก วันดีคืนดีอาโยคุ้ยขยะแล้วดันไปกินเนื้อที่มีคนวางยาเบื่อ อ้วกแตกอยู่ไม่รู้นานเท่าไหร่ ฝนก็ตก นอนซมอยู่ข้างถนน จนมีหน่วยกู้ภัยมาดูอาการแล้วเอาไปส่ง รพส. อาการคืนแรกคือ 50-50 โคม่า ม้ามโต ตับวาย ตาบอด (จากฤทธิ์ยา) มีพยาธิเม็ดเลือด รพส. อ.เทิง รักษาไม่ไหว ต้องส่งตัวเข้าเมือง แล้วก็อยู่ยาวมาประมาณ 6 เดือน มีเพจช่วยระดมทุนค่ารักษาให้ เพราะเจ้าของไม่ออกหรือไม่มี อันนี้เราไม่รู้ เรามาเห็นเค้าหาบ้านบนเฟสบุ๊ค แล้วติดต่อไปทางคุณหมอเจ้าของคลินิกว่าสนใจ จะไปดูตัวนางที่เชียงราย
ก่อนหน้านี้เราแอบส่องหมาหาบ้านมานาน ตั้งแต่อยู่เมกาละ แต่ปัจจัยหลายๆอย่างทำให้เราไม่พร้อม มาตอนแรกเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ที่เอกมัย เค้าให้โฮย่าอยู่ตัวเดียวก็บุญแล้ว เพราะกฎตึกคือหมาต้องไม่เกิน 8 กิโล โฮย่าเกือบ 40 โล แหะๆ รอบ้านสร้างเสร็จก็ 2 ปีได้ ก็เริ่มคิดเยอะขึ้น เห็นใครน่าสนใจก็เหล่ๆไว้ แต่สุดท้ายคิดว่าต้องเป็นหมาโตแล้วเพราะ โฮย่าตอนนั้นก็ 10 ขวบ สงสารถ้าจะเอามาเด็กมาป่วน แต่ก็คิดว่าน่าจะดีถ้าเค้ามีเพื่อนชวนกันลุกเดินไปไหนมาไหนบ้าง เพราะตั้งแต่มาเมืองไทย กิจกรรมโฮย่าก็ดรอปลงทันทีด้วยอากศที่ร้อนอบอ้าว
อาโย เป็นหมาขี้กลัว ไปรับที่สนามบิน ขี้แตกมาเต็มกรงเลย มาอยู่บ้านอาทิตย์แรก หางจุกตูดอยู่ 2 อาทิตย์ ก็มาเริ่มเทรนกันใหม่เพราะไม่เคยเป็นหมาในบ้านมา ยังอึฉี่เรี่ยราด ปล่อยออกไปฉี่ก็จะชอบไปหาแอ่งน้ำหย่อนตูด กทม มันไม่เย็นเหมือนเชียงราย เดินเชือกจูงไม่เป็น หมอบทำตัวหนักตลอด ขึ้นรถก็กลัว ฉี่ราดเต็มรถ คุ้ยขยะเป็นอาชีพ เห็นนางเรียบร้อยๆ แบบนี้ แต่ทิ้งอาหารไว้บนโต๊ะ บนชั้น ไม่ได้เลยนะ นางฟาดเรียบ(ร้อย) แทบไม่เหลือหลักฐาน บางทีก็ขโมยสิ่งที่ไม่ควรกิน เช่น ขนมปังลูกเกด ช็อคโกแลต แต่ก็ไม่เคยเป็นอะไร หมอบอกว่า ตับเหล็ก ภูมิดีจากการคุ้ยขยะเป็นอาชีพ ตอนมาจากเชียงรายน้ำหนัก 29 กก. ตอนนี้ 35 กก. เทียบเท่าปู่โฮย่าแล้ว สมัยหนุ่มๆปู่หนัก 40 กก. ตอนนี้น่าจะเสียกล้ามเนื้อ น้ำหนักเหลือ 35 กก. วีรกรรมล่าสุด ปล่อยอยู่คนเดียวแค่ 5 นาที นางคุ้ยกินยาแก้ปวดที่หมอจ่ายให้โฮย่าหมดถุง ต้องไปล้างท้อง ให้น้ำเกลือ 3 วัน แต่ตัวนางน่ะไม่รู้สึกอะไรหรอก ยังนอนยิ้มหน้าบานอยู่
ตั้งแต่วันที่รับมาถึงวันนี้ อาโยเปลี่ยนไปมาก ขนยาวสลวย ตัวเต็ม (ไม่อยากบอกว่าอ้วน) เดินเชือกจูงได้สบายๆ ตั้งตารอกระโดดขึ้นรถไปทำงานด้วยทุกเช้า หางแกว่ง (ใส่หน้าปู่โฮ) ทั้งวัน ที่สำคัญติดคนมากกกกก พาไปช่วยขายของที่งาน pet expo เอาคางไปวางตักทุกคน นอนขวางทางลูกค้าจะหยิบขนม นอนแผ่พุงให้เกา ใครแสดงความสนใจไม่ได้เลย ต้องเดินไปหาให้เค้าลูบหัว ลูบหัวเสร็จ นอนหงาย เกาพุงข้าเดี๋ยวนี้ มีแต่คนอยากเอานางกลับบ้านเพราะความขี้อ้อนระดับชาติ
เราเชื่อว่าอาโยรู้ว่าเราช่วยเค้ามา เพราะมันติดแม่มันมากกกก ไม่เจอหน้ากัน 5 นาที พอกลับมาดีดอย่างกับไม่เจอกันมาหลายปี เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เวลาลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน นางก็ลุกตามไปเฝ้า ดีใจที่มีอาโยมาอยู่ด้วยนะ อาโยอยู่กับสัตว์ได้ทุกชนิดเลย เข้ากับหมาได้ทุกตัว ไม่เคยไล่ไก่ กระต่าย หรือใดๆเลย จะมีก็แต่แอบไปกินอาหารเค้า เคยโดนห่านไล่จิกหัวซุกหัวซุน อาโยรู้หน้าที่ว่าเวลาอาหารต้องรอโฮย่าเสด็จให้ถึงครัวก่อน ชามลงที่ปู่โฮก่อนค่อยถึงคิวนาง นางรอโฮย่ากินเสร็จจะได้เลียเศษๆในชามที่โฮย่าเลียไม่สะอาด เสียดายนิดหน่อยว่าเราไม่ค่อยได้พาเค้าไปเที่ยว เพราะโฮย่าแก่แล้ว ถ้าโฮย่าไม่ไปอาโยมีรึจะได้ไป บ้านนี้ใครใหญ่ให้มันรู้
ห่าน ไก่งวง ไก่บ้าน อิกัวน่า เป็ด ปลา
สัตว์กลุ่มนี้มาจากผู้รับเหมาชาวอเมริกันที่ดูก็แบบฮิปปี้หน่อยๆ ทอมมี่จ้างมา renovate ออฟฟิศก่อนเราจะย้ายสำนักงานออกจากบ้านตัวเอง ผู้รับเหมาคนนี้เช่าโรงละครเก่าอยู่ใน กทม ไม่รู้ที่ไหน แต่มีสัตว์ฝูงนี้ พอเค้าจะย้ายที่ไปอยู่แม่สอด ทอมมี่เลยบอกว่าเอามาฝากที่ Barkery ได้ แล้ววันหนึ่งวันนั้นนางก็ขนมาเลยจ้ะ สวนสัตว์เต็มคันรถ ห่าน 1 ตัว ไก่งวง 2 ตัว ไก่บ้านประมาณ 5 ตัว เป็ด 7 ตัว อิกัวน่า 1 ตัว ปลา 1 บ่อ *สูดหายใจ*
ในบรรดาสัตว์เหล่านี้ แปลกมากที่สิ่งที่ติดคนที่สุดคือห่าน เดินตามทั้งวันเลยจ้า นางมาโดเด่ตัวเดียว ทอมมี่ก็สงสาร แว้นไปตลาดซื้อห่านหิ้วขึ้นมอไซต์มาเป็นเพื่อนอีกตัว ห่านตัวนี้ซื้อมาแบบชั่งกิโล ตัวนึง 800 บาท น่าจะมาจากฟาร์ม ไม่เคยรู้จักอิสรภาพ เดินสั่นงกๆๆทั้งวัน นึกว่าเป็นพาร์กินสัน แล้วก็เดินตามห่านอีกตัวตลอด ห่านตัวแรกที่มาเป็นสัตว์ที่มีคาร์แรคเตอร์มากๆ เลือกที่รักมักที่ชัง รักบางคนเช่นเราและทอมมี่ แต่ไล่จิกบรินทร์กับอาโย และเพื่อนบางคนที่มาหา จิกจริงจังชนิดเลือดไหล ทั้งๆที่เค้าตั้งใจจะมาเล่นด้วย ชิ น้องห่านร้องห่านๆๆๆทั้งวัน ชอบให้อุ้ม อุ้มแล้วหยุดร้อง วางแล้วร้องใหม่เหมือนใส่ถ่าน
ตั้งแต่สัตว์กลุ่มนี้มาก็เหมือนจุดประกายความเป็นพ่อเล้าให้ทอมมี่ วันๆ กดเฟสบุ๊คหาคนขายไก่ ดูสารคดี และรายการไก่ๆ ศึกษาพันธุ์ไก่ แล้วเราก็เริ่มมีไก่เพิ่ม เยอะจนไม่นับแล้ว
อิกัวน่า เป็นตัวที่ชอบหนีเที่ยว เพื่อนบ้านจับมาส่งคืนตลอดเลยช่วงแรก ตอนนี้เลิกแล้ว ปล่อยให้นางเดินไปไหนมาไหนตามใจ เดี๋ยวนางหิวก็กลับบ้านเอง
ตอนนี้สัตว์ชุดนี้ถูกส่งไปอยู่กับเจ้าของเค้าที่แม่สอด เหลือคือเป็ด 7 ตัว อิกัวน่า และปลา 1 บ่อ
ไก่บราม่า ไก่ดองเต๋าตีนโต ไก่ดำอินโด
ไก่ชุดนี้มาจากการซื้ออย่างบ้าคลั่งของสามี ขนาดต้องแอบเมียโทรศัพท์ สวัสดีค้าบ ผมสนใจไก่ค้าบ... มองบน ไปเที่ยวเชียงใหม่ ยังจะหาฟาร์มไก่ไปแวะ ไก่(บางตัว)น่ารักจริง อย่างไก่บราม่าเป็นไก่พันธุ์ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนที่เท้าด้วย พวกนี้ค่อนข้างคุ้นคน ให้จับให้อุ้มได้ ไก่ดำอินโด พวกนี้ครึ่งไก่ป่า ไม่ชอบยุ่งกันคน ไก่ดองเต๋าหรือไก่ตีนโตเวียดนาม ทอมมี่บอกว่าแพง สำหรับเรามันคือไก่ที่โดนผสมพันธุ์เลือกยีนส์ไม่ดีต่อสุขภาพ ออกมาเป็นไก่ที่ดูพิกลพิการ
ไก่ฝูงนี้ไม่มีใครมีชื่อนะ นับกันยังไม่ถ้วนเลย แต่ก็เห็นว่าเค้ารู้จักพวกตัวเอง ไก่ดำอยู่กับไก่ดำ ตีนขนอยู่กันตีนขน ตีนโตอยู่กับตีนโต แยกเป็นโซนๆ ยกเว้นเวลาทอมมี่เอาข้าวมา จะเป็นเวลาที่ทั้งไก่ ทั้งเป็ด วิ่งกันมาเต็มสปีดจากทุกสารทิศ มากินของเหลือ บางทีก็เป็นข้าวมันไก่ มันก็ไม่ได้ว่าอะไร ทุเรียนก็กิน คลุกกะปิก็กิน
เวลาคนส่งของโทรมาถามทางเรามักจะบอกว่าบ้านที่มีรั้วเหล็กสีเทา หลายคนมักถามกลับว่าที่มีไก่ใช่มั๊ยคับ จ้ะ ที่มีไก่นั่นแหละ
เป็ดไก่พวกนี้ออกไข่ให้ทุกวัน พนักงาน Hoya Barkery ก็จะได้ farm fresh eggs ไปรับประทาน ลิงก็ได้เก็บไข่ทุกเสาร์อาทิตย์ พาเพื่อนมาเก็บด้วย นอกจากเอาไข่มากินแล้ว สามีหัวใสยังเอาใส่เครื่องฟักไข่ ออกมากันอีกเป็นฝูง มันก็น่ารักดีหรอกนะ แต่กินหญ้าเปิงหมด แล้วก็ขี้เรี่ยราด บอกสามีบ่อยๆ ว่า ไก่มันก็สวยดี แต่ช่วยควบคุมจำนวนประชากรด้วย
หนูแกสบี้ Spider Man กับ Incredible Hulk
สืบเนื่องมาจาก แม่ซื้อหนอนมาให้ลิงเลี้ยง ให้กินใบมะกรูดแล้วดูวงจรชีวิตตั้งแต่เป็นหนอน กินใบไม้ จนเข้าดักแด้ และออกมาเป็นผีเสื้อ แล้วให้ลิงปล่อยผีเสื้อ หนอนนั้นมากับกล่องเลี้ยงสัตว์เล็ก ซึ่งมีรูปหนูแกสบี้ติดอยู่ ให้ดูเป็นตัวอย่างว่ากล่องนี้ไว้ใส่สัตว์ประมาณนี้ ลิงก็ถามทันใด นี่ตัวอะไร อยากได้ อีพ่อก็สนอง จิ้มเฟสบุ๊คหาทันที อิพ่ออิแม่ก็กลับไปกลับมาว่า ตอนนี้เรามีเป็ดไก่ปลาเป็นฝูงแล้ว จะเอาหนูอีกหรือ ผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ลิงยังอยากได้อยู่ บอกว่าเค้าจะดูแลเอง ประจวบเหมาะกับมีคนโพสต์ในกลุ่ม expat ว่าเค้าหาบ้านใหม่ให้สัตว์เลี้ยงในสังกัด เนื่องจากธุรกิจไม่ดี จำเป็นต้องย้ายจากบ้านไปอยู่คอนโด ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น เราจึงพาลิงไปดูหนู ฝรั่งคนนั้นมีหนู 4 ตัว เราเลือกมาคู่นึงที่เค้าอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว แล้วก็เหลือบไปเห็นกระต่ายหูตกถึงดินตัวใหญ่มาก ทำไปทำมา ได้กระต่ายมาอีก 3 ตัว
หนูแกสบี้สองตัวที่เราเลือกมานั้น อายุประมาณ 1-2 ขวบทั้งคู่ แกสบี้มี life span ประมาณ 5-8 ปี ตัวผู้สีขาวขนยาวชื่อ Sloopy ตัวเมียสีน้ำตาลขนสั้นชื่อ Candy พอกลับมาบ้าน ลิงเปลี่ยนชื่อให้เป็น Spiderman กับ Hulk ตัวเมียเป็น Hulk นิสัยก็ขี้กลัวตามระเบียบหนู ที่เป็นสัตว์ที่อยู่ล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โดนล่าตามธรรมชาติ เจ้าของเก่าเค้าสั่งทำบ้านไม้ให้เจ้าหนูอยู่ แต่เป็นลักษณะคอกเปิด ไม่มีหลังคา โฮย่า อาโยก็หย่อนหัวลงไปได้สบายๆ แล้วอาโยก็ชอบหย่อนหัวไปกินข้าวหนูจริงๆ เราเลยต้องวางอาหารหนูไว้ที่ที่อาโยงาบไม่ถึง นางไม่ได้สนใจอะไรหนูเลยนะ แต่คิดสภาพคนเป็นหนู มีหัวหมาโกลเด้นหย่อนมาในบ้านเค้า ก็น่าสยองอยู่นะ
ถามว่าได้เล่นอะไรกับสองนางนี้มั๊ย ก็ไม่ค่อย มีแต่ต้องเก็บกวาดขรี้นางทุกเช้า เอาออกไปผึ่งลมกินหญ้าข้างนอกตอนเย็น แล้วคอยดูไม่ให้แมวข้างบ้านมากิน ตัวขาวขนยาวฉี่เต็มขน ต้องจับอาบน้ำอีก ลิงที่บอกจะดูแล มันเหลือแต่ดู ดูเฉยๆ ให้แครอทบ้าง แต่เก็บขรี้ เช็ดตูดนี่งานแม่ตลอด ตั้งแต่หมา ลิง หนู
กระต่าย Loopy, Binny, Bella, Lenny, Bonnie
ที่บอกว่า รับกระต่ายมา 3 ตัว สุดท้าย ฝรั่งเจ้าของเก่าบอกว่า เค้าหาบ้านให้อีก 2 ตัวไม่ได้ ยูว์รับไปหมดเลยได้มั๊ย 5 ตัว ปึงงง อ่ะจ้ะ มาจ้ะ Hoya Barkery ของเรานั้นคือสถานสงเคราะห์สัตว์กำพร้า กระต่าย 5 ตัวนี้ แบ่งเป็นสองกลุ่ม ที่ไม่ถูกกัน Loopy Binny Bella กลุ่มนึง Lenny Bonnie อีกกลุ่มนึง พอเอามาเราก็คิดว่า เราเลี้ยงปล่อยในสวน ที่ก็พอสมควร เค้าคงหามุมตัวเองได้แหละ เหมือนหมา เวลาอยู่ด้วยกันก็มีทะเลาะกันช่วงแรกเพื่อให้รู้ว่าใครลูกพี่ ใครลูกจ๊อก กระต่ายก็น่าจะเช่นกัน ก็ปล่อยเลย 5 ตัว ตามสบาย ปรากฏว่าก็มีทะเลาะกันแหละ เห็นร่องรอยขนกระจัดกระจาย แต่ก็ไม่มีใครหูแหว่ง ตีนขาด แล้วสุดท้ายเค้าก็อยู่ด้วยกันได้
Loopy เป็นกระต่ายตัวผู้หูตก lop ear แต่พันธุ์อะไรไม่รู้ ถามหมอหมอก็ไม่แน่ใจ อายุขวบกว่าๆ แต่หนัก 4.3 กิโล ตัวตัวจนหมอยังตกใจ แรงเยอะ เล่นด้วยได้ ไม่ชอบให้อุ้ม ให้จับนอนบนตักได้ ชอบมาฉี่บนเตียงปู่โฮย่า นี่เอ็งเป็นหมาหรือกระต่าย Loopy อยู่กับแม่ลูกตัวเมียสองตัวคือ Binny และ Bella สีดำ ตัวเล็ก จับยาก แต่ถ้าเอาเข้าบ้านมาแล้วก็ไม่วิ่งหนีไปไหน
Lenny เป็นกระต่ายตัวผู้อีกตัวที่อยู่กับตัวเมียชื่อ Bonnie Lenny อายุ 6 ขวบแล้ว ซึ่งถือว่าแก่ หมอบอกกระต่ายอยู่ได้ไม่ค่อยเกิน 10 ปี แต่ Lenny ชอบอยู่กับคนมากที่สุด พาไปหาหมอ หยอดตา ตัดเล็บก็ไม่ดิ้น จับเล่นได้สบายๆ
ถามว่าเงินที่ได้จากขายขนมหมาไปอยู่ไหนหมด นี่แหละคำตอบ ไม่ได้เข้ากระเป๋าพ่อแม่เลยซักบาท สัตว์ในสังกัดเรา (ยกเว้น เป็ด ไก่ อิกัวน่า ปลา) ทำหมันแล้วทุกตัวนะคะ เรารู้ว่าการเลี้ยงสัตว์มันใช้เงินเยอะ จะปล่อยเค้าทิ้งๆขว้างๆก็ไม่ได้ น้องๆส่วนใหญ่เราได้มาฟรีจากเพจต่างๆ เพราะสัตว์หาบ้านมันมีเยอะ สัตว์โดนทิ้งได้ง่ายๆ อย่าเพิ่มประชากรเค้าโดยไม่จำเป็นเลย...นะ