ตอนรับโฮย่ามาอยู่ด้วยใหม่ๆ กลัวอะไร ก็กลัวหมาตาย เพราะเลี้ยงไม่เป็น สัตว์เลี้ยงที่เคยมีในวัยเด็ก ปลา เต่า กระแต ล้วนไปก่อนวัยอันควร แม้แต่กระบองเพ็ชรยังหักกลางต้นตายไป เราไม่ได้เป็นคนรักหมาแต่กำเนิด ตอนนี้ก็ยังก้ำกึ่งว่าเรารักหมามั๊ย (เพราะหมาไม่น่ารักมันก็มีอ่ะ ใช่ป่ะ) แต่ Hoya is MY dog and he's perfect




ที่ว่ากลัวหมาตายตอนเอามาใหม่ๆ เพราะไม่มีคนอยู่บ้านช่วงกลางวัน แล้วเราไม่ได้เลี้ยงในกรง เอาไว้ในห้องบ้าง กั้นบริเวณครัวบ้าง วันนึงเปิดห้องเข้าไป ร้อนโฮก ก่อนออกจากบ้าน เร่งฮีทเตอร์ไว้ กลัวหมาหนาว ขุ่นพระ กลับมาหมาลิ้นห้อยถึงดิน และบางวันก็กลับมาเจอสภาพหมาหลุดออกจากที่กักบริเวณ กระจายสิจ๊ะ ทุกสิ่งทุกทิศ อาหารหมา ข้าวสาร สายไฟ ของเล่น ปนกันนัว จริงๆ ถ้าย้อนกลับไป มีอะไรที่เราคิดว่าน่าจะเตรียมตัวมากกว่านี้หน่อย ศึกษาหน่อย นี่ชีวิตหมาทั้งตัว ตอนพ่อแม่มาเยี่ยมที่อเมริกา โฮย่าอายุ 6 เดือนยังถามว่าถ้ากลับเมืองไทย โฮย่าจะทำไง ตอนนั้นยังตอบไปว่าเดี๋ยวหาคนมาเลี้ยงต่อเลยอ่ะ (หืม ใครมาตอบแบบนี้ใส่ตอนนี้นะ จะโดนมะเหงก) แต่ถ้าถามว่าอยากเปลี่ยนอะไรมั๊ย ไม่อยากเปลี่ยนอะไรเลย ทุกอย่างทุกวันคือการเรียนรู้ และเราก็รักเค้ามากขึ้นทุกวัน เลี้ยงกันจนใครเป็นนาย ใครเป็นหมาไม่รู้ ซื้อรถก็ต้องที่โฮย่านั่งได้สบาย (เปลี่ยนจากรถ Mini เป็น station wagon คนแก่ไปเลย) ไปจองทะเบียนรถ HOYA CAR ให้มันรู้ว่านี่ราชรถใคร จะซื้อบ้านก็คิดว่าโฮย่าจะชอบมั๊ย ไปเดินตรงไหน ฉี่ตรงไหน มีสวนให้ไปวิ่งเล่นมั๊ย ปรึกษาหมาตลอด บทสนทนาแต่ละวันกับสามีต้องมีการายงานว่าโฮย่าอึกี่ก้อน แข็งหรือนิ่ม ถามว่าบ้ามั๊ย ก็นิดหน่อย แต่ไม่ได้หนักหัวใคร
ผ่านไป 11 ปี 9 เดือน ตอนนี้กลัวอะไร ก็กลัวหมาตาย โฮย่าเป็น Olde English Bulldogge ตามสายพันธุ์อยู่ได้ 11-13 ปี นี่ล่อเข้าไปจะ 12 ขวบแล้ว จริงๆ คิดมาตั้งแต่เค้า 6-7 ขวบแล้วแหละ ตอนนั้นหาสายการบินที่จะเอาโฮย่ากลับเมืองไทย เค้าบอกว่าหมา 7 ขวบคือเข้าวัย senior แล้ว ตัวใหญ่หน้าสั้นด้วย เดินทางมีความเสี่ยง มองหน้าทู่ๆ ปากห้อยๆ แล้วก็แอบเศร้าหน่อยๆ ถ้าโฮย่าไม่อยู่แล้วชีวิตจะเป็นยังไง อาจจะไม่เคยพูด ไม่เคยบ่นกับใคร เพราะก็เข้าใจว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ความเข้าใจกับการทำใจมันคนละเรื่องกัน คนที่มีหมาหลายคนอาจจะคิดเหมือนกัน...


โฮย่านับว่าเป็นหมาที่สุขภาพดีมาก ไม่เคยเจ็บไข้มากไปกว่าเชื้อราบ้าง ท้องเสียบ้าง ค่อนข้าง sensitive กับอาหาร ไม่ใช่หมากินยาก แต่กินเสร็จแล้วถ่ายนิ่ม ก็ต้องเลือกอาหารการกินเป็นพิเศษ มีครั้งนึงที่ต้องผ่าตัดเพราะมีก้อนที่คอ หมอตรวจก็ไม่ได้เป็นเนื้อร้าย แต่เราตัดสินใจให้ผ่าออก จะได้ไม่ต้องกังวลตรวจกันบ่อยๆนอกจากนั้นก็ไม่เคยมีอะไรให้กังวล เราให้ทานอาหารที่ดี ขนมที่มีประโยชน์ และพาออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปีนเขา ชักคะเย่อ สำคัญมากๆเลยในการทำให้หมาสุขภาพดีอยู่กับเราไปนานๆ
ในสามปีตั้งแต่มาเมืองไทย โฮย่าแก่ลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยอากาศด้วย โฮย่าไม่ชอบอากาศร้อน อย่าว่าแต่โฮย่าเลย แม่มันก็ไม่ชอบ ยิ่งแดดดี้ยิ่งไม่ได้เลย ค่าไฟที่บ้านคือเหยียบหมื่น ตอนแรกโฮย่ายังมีเล่น frisbee บ้าง แต่วิ่งสองทีก็ลิ้นห้อยถึงดิน ตอนนี้เอาไปเดินในซอยได้ 300 เมตรแบบลากไถ กลับมานอนกรนดังชนิดเตะไม่ตื่น ช่วงหลายเดือนมานี้มีตกบันไดด้วย การทรงตัวไม่ค่อยดีแล้ว mommy ก็พาลงลิฟท์บ้าง แต่กว่าจะขุดนางออกจากเตียงตอนเช้าได้ ส่วนใหญ่ mommy ก็เดินลงมาเตรียมอาหารในครัวแล้ว พี่โฮย่าได้ยินเสียงเคาะชามก็จะเริ่มขยับตัว ส่วนอาโยลงมานอนรอข้างล่าง รู้ตัวว่านางได้กินหลังปู่โฮย่าเสด็จแล้วเสมอ ชามข้าวโฮย่าปัจจุบันเต็มไปด้วยวิตามินหมาแก่ บำรุงข้อ บำรุงระบบย่อยอาหาร แต่ไม่มียานะคะ เราคิดว่าน่าจะทำให้เค้าดีที่สุดแล้ว ไม่เสียชาติหมา อยากให้ปู่โฮย่าอยู่เป็น life of the party อีกนานๆ


Let's Grow Old Together
Hoya the Great. Mommy loves you.