ตั้งแต่พี่โฮย่าเด็กๆ เราก็มีความคิดว่าอยากจะให้เค้ามีเพื่อน ก็ไปรับเลี้ยงหมาจรทั้งหลาย ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องหมาๆ เยอะเลย จากคนที่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงตอนเด็ก เห็นหมาเพื่อนก็ยี๊ๆ พอมีพี่โฮย่าก็กลายเป็นคนสนใจสัตว์ เกิดความผูกพัน จนตอนนี้ไม่อยากคุยกับคนแล้วจ้า คุยกับหมาอย่างเดียวได้มั๊ยยยย ตอนนั้นที่ไม่ได้รับหมามาเลี้ยงเพิ่มแบบถาวรเพราะรู้ตัวว่าจะย้ายกลับเมืองไทย
พอกลับมาเมืองไทยด้วยความที่เราบริจาคให้เพจหมาบ่อย ก็จะมีเข้ามาใน newsfeed ให้ชมโฉมหน้าผู้เข้าประกวดอยู่เรื่อยๆ ตอนนั้นคิดว่าอยากได้หมาโตเต็มวัยแล้วเพราะ พี่โฮแก่ เอาหมาเด็กมาก็จะวุ่นวายสงสารนาง แล้วนังอาโย (สมัยนั้นชื่อ กะเปีย) ก็โผล่มาใน feed ของเรา หมาทุกตัวที่หาบ้านก็จะมีเรื่องราวของตัวเองว่าไปไงมาไง ด.ญ.กะเปียก็เช่นกัน น้องเป็นสาวเชียงราย เจ้าของเดิมเป็น breeder ที่เลี้ยงแบบให้กะเปียหากินเองตามถนน พอถึงฤดูผสมพันธุ์ก็จะหาตัวผู้มาทับ แล้วเอาลูกไปขาย กะเปียน่าจะมีลูกมาแล้ว 2-3 คอก น้องมีอาชีพคุ้ยขยะหาของกิน คนแถวนั้นจะคุ้นหน้าคุ้นตานางดี นางจะวนเวียนใกล้ร้านอาหาร แต่เจ้าของก็จะไล่บ้างเพราะกลัวลูกค้าจะรังเกียจ และน้องก็มีอาการกลัว ไม่ไว้ใจคนด้วย แล้ววันหนึ่งน้องกะเปียดันไปกินเนื้อที่มีคนวางยาเบื่อเข้า นางก็อาเจียน ท้องเสีย นอนซมอยู่ข้างถนน ฝนตกหนัก ไม่มีใครอยากให้ความช่วยเหลือเพราะไม่อยากรับภาระค่าใช้จ่าย น้องนอนอยู่หลายชั่วโมงจนมีคนแจ้งหน่วยกู้ภัยให้มารับ เมื่อเจ้าของทราบก็มารับไป แต่ไม่พาไปหาหมอ แจ้งว่าจะรักษาที่บ้าน ทั้งๆ ที่น้องอาการปางตาย เมื่อเจ้าของเพจ คนรักสุนัขและแมวเชียงรายทราบเรื่องจึงขอเจ้าของว่าจะพาไปรักษาที่คลินิก
.
อาการคืนแรกของอาโยคือความเป็นความตาย ไม่รู้จะอยู่หรือจะไป อ้วก ชัก หมดสติ และเพราะฤทธิ์ยาทำให้น้องตาบอด ตับวาย โคม่า แถมเจอพยาธิเม็ดเลือด ม้ามโต อีกสารพัด อาการหนักจนคลินิกแรกรับไม่ไหว ต้องส่งเข้าตัวเมืองเชียงรายในเวลาต่อมา อาโยใช้เวลารักษาตัวอยู่ร่วมเดือนโดยใช้เงินบริจาค พออาการดีขึ้นเจ้าของโผล่มาว่าจะเอาหมาคืน แต่มีคนที่รู้จักเจ้าของเพราะเคยซื้อลูกอาโยไปขายคัดค้านเพราะรู้ว่ากลับไปก็กลายเป็นหมาเร่ร่อนเหมือนเดิม ทางเพจก็ฟาดฟันกับเจ้าของนิดหน่อยเพื่อได้ครอบครองสิทธิ์หาบ้านใหม่ให้อาโย
ก่อนเริ่มหาบ้านใหม่ อาโยต้องเข้าคอร์สปรับพฤติกรรมก่อนเพราะมีอาการหวาดกลัวคนมาก ชอบวิ่งหนี ขี้ตกใจ เดินเชือกจูงไม่เป็น ตอนที่เราเห็นอาโยใน feed นางหาบ้านมาแล้วร่วมครึ่งปี แม้อาโยจะหน้าตาดี แต่หมาใหญ่ที่มีประวัติแบบนี้หาบ้านไม่ง่าย และทางเพจก็ต้องคัดคนที่จะรับไปเลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าน้องจะไม่โดนทิ้งอีก เอาตรงๆ ก็คือ การเล่นกับหมา การเห็นหมาน่ารัก กับการเลี้ยงหมามันคนละเรื่องกัน คนเลี้ยงต้องมีความพร้อมที่จะดูแลเค้าไปอีกเป็นสิบปี ป่วยต้องมีเงินพาไปรักษา มีการดูแลฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ
พอดีช่วงนั้นแบ๋มพาครอบครัวไปเที่ยวเชียงรายพอดี เลยติดต่อคุณหมอแพรซ์เจ้าของคลินิกว่าน้องยังหาบ้านอยู่มั๊ย จะขอดูตัวได้รึเปล่า เราอยู่กรุงเทพ ถ้าตกลงรับ จะส่งมาให้ได้มั๊ย แล้วเราก็ให้รายละเอียดพร้อมรูปปลากรอบว่าถิ่นพำนักเราอยู่ตรอกซอกซอยใด หน้าตาเป็นไง มีหมา มีเด็กอยู่แล้วเท่าไหร่ มีรั้วรอบขอบชิดมั๊ย หมาเรานอนที่ไหน กลางวันมีใครอยู่บ้าน ที่อเมริกาการรับหมาหาบ้านมาเลี้ยงไม่ใช่เรื่องง่าย หน่วยงานที่คัดบ้านมีความพิถีพิถันในการเลือกบ้านให้น้องเป็นอย่างมาก และมีค่าใช้จ่ายมากพอสมควรเพราะต้องการให้บ้านนั้นเป็นบ้านหลังสุดท้ายของน้องจริงๆ
ทริปนั้นเราไปอยู่เชียงราย 4 คืน ไปแวะเจออาโยวันแรกหลังลงเครื่อง ก็ดูดีไม่มีปัญหา หน้าตาตรงปก ดูเหนียมๆ แต่ไม่มีท่าทีดุ จริงๆ เราไม่ค่อยกังวลเรื่องการเข้ากับพี่โฮย่า หรือการปรับพฤติกรรมเท่าไหร่เพราะดูแลหมาจรมาค่อนข้างเยอะ เห็นความเปลี่ยนแปลงทุกตัว ตอนนั้นที่ห่วงคือการออกกำลังกาย เพราะพันธุ์โกลเด้นโดยธรรมชาติต้องการพื้นที่วิ่ง ต้องออกกำลังกายทุกวัน ไม่งั้นจะงุ่นง่าน กัดข้าวของในบ้าน แต่คุณหมอบอกว่าที่คลินิกไม่ได้มีที่มากและไม่ได้พาไปเดิน อาโยก็ไม่ได้มีอาการหงุดหงิดอะไร ก่อนกลับกรุงเทพ เรากับครอบครัวก็ไปดูตัวนางอีกครั้งให้แน่ใจ และนัดแนะกับทางคลินิกและเพจ คนรักสุนัขและแมวเชียงราย เพื่อจัดเตรียมกรงและซื้อตั๋วเครื่องบินให้อาโยบินมา กทม
อาโยมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราในวันปล่อยผี 31 ตุลาคม 2563
Let's Grow Old Together